Individual Investors

  • Posted by:

    ThaiBMA
  • Posted on:

    Jul. 24, 2019
จับตา!!! สถานการณ์การผิดนัดชำระหุ้นกู้ประเทศสิงคโปร์

เมื่อปี 2015 หุ้นกู้ในสิงคโปร์ได้เริ่มเกิดการผิดนัดชำระหนี้ขึ้นอีกครั้ง สร้างความแตกตื่นให้กับนักลงทุน โดยตลอดช่วงเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาก็ยังมีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้นเป็นระยะ จนกระทั่งเมื่อปี 2019 มีบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งผิดนัดชำระการจ่ายดอกเบี้ย Perpetual bond เป็นครั้งที่ 2 จึงสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดหุ้นกู้สิงคโปร์อย่างมาก ทำไม ยังไง อะไร เรามาไล่เรียงกัน

นับตั้งแต่ปี 2009 การผิดนัดชำระหุ้นกู้ของสิงคโปร์ก็เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพฤศจิกายน 2015 โดยเป็นหุ้นกู้ของบริษัท Trikomsel Oke ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกโทรศัพท์มือถือสัญชาติอินโดนีเซียที่ไม่จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 รุ่น มูลค่ารวมกว่า S$215 million โดยมีสาเหตุหลักจากการอ่อนค่าอย่างรุนแรงของเงินรูเปียร์

ต่อมาในปี 2016 มีอีก 5 บริษัทที่มีการผิดนัดชำระโดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากปัญหาการขาดสภาพคล่อง รวมมูลค่ากว่า S$700 million - S$1 billion ได้แก่ บริษัท Pacific Andes Resources Development ที่เป็นธุรกิจผลิตอาหารทะเล บริษัท Swiber Holdings ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันและแก๊ส และบริษัท Perisai Petroleum Teknologi

การ Default ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นในปี 2017 นอกจากจะมีการผิดนัดการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นแล้ว บางบริษัทได้มีการขอขยายเวลาการครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (Extended maturity) รวมถึงการยื่นปรับโครงสร้างหนี้และการยื่นล้มละลาย รวมกว่า 9 บริษัท มูลค่าการผิดนัดชำระสูงถึง S$2 billion ซึ่งถือเป็นปีที่มีการ Default สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ บริษัทส่วนใหญ่ที่มีปัญหาการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นจะเป็นบริษัทขายน้ำมันและบริษัทที่ต้องใช้น้ำมันเป็นปัจจัยการผลิต เช่น บริษัท Swiber Holdings บริษัท Macro Polo Marine และ บริษัท Nam Cheong ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ

สำหรับปี 2018 ที่ผ่านมา สถานการณ์การผิดนัดชำระดูจะผ่อนคลายลง มีหุ้นกู้ Default เพียงรุ่นเดียว คือ บริษัท CW Advanced Technologies ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นคืนมูลค่า S$75 million

หากรวมมูลค่าการผิดนัดชำระตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2018 มีมูลค่ามากกว่า S$3.2 billion คิดเป็น 2.6% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนสิงคโปร์ ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว

แต่แล้วสถานการณ์การผิดนัดชำระก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนอีกครั้ง เมื่อล่าสุดในเดือนเมษายน 2019 บริษัท Hyflux ที่เป็นบริษัทผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเลและผลิตไฟฟ้าซึ่งชนะการประมูลเป็นผู้ผลิตน้ำประปาให้กับ PUB (Public Utilities Board) ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ Perpetual bond ที่มีมูลค่า S$500 million ให้แก่นักลงทุนกว่า 3.4 หมื่นราย โดยบริษัทขอเลื่อนการจ่ายมาแล้ว 2 ครั้งก็ยังไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้เนื่องจากการขาดทุนสะสมตั้งแต่ปี 2017 นอกจากนี้บริษัทยังต้องจ่ายคูปองสูงขึ้นอีก 200 bps จาก 6% เป็น 8% ภายหลังจากที่ครบ 2 ปีที่บริษัทสามารถเรียกไถ่ถอนคืนได้ครั้งแรก (First call)

การ Default ที่เกิดขึ้นของบริษัท Hyflux สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดอย่างมากเนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี 2019 บริษัท Hyflux มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนอีกกว่า S$4 billion และอีกกว่า S$10 billion ในปี 2020 เมื่อรวมกันแล้วจะเป็นมูลค่าการผิดนัดชำระที่สูงกว่า 4 เท่าของมูลค่า Default ที่เกิดขึ้นในปี 2015-18

ณ ตอนนี้ แม้ว่า PUB ของสิงคโปร์อาจจะเข้าซื้อโรงงานผลิตน้ำประปาของบริษัท Hyflux เพื่อแก้ไขปัญหาความเพียงพอของน้ำประปา แต่สำหรับนักลงทุนหุ้นกู้ Hyflux ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะได้รับเงินคืนหรือไม่ ก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า Hyflux จะสามารถปรับโครงสร้างหนี้และเพิ่มทุนเพื่อให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้หรือไม่ หน่วยงานภาครัฐของสิงคโปร์ก็ได้เฝ้าระวังว่าจะมีบริษัทอื่นที่ผิดนัดชำระอีกหรือไม่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างผันผวนในปัจจุบัน

All Blogs