Individual Investors

  • Posted by:

    ThaiBMA
  • Posted on:

    May 03, 2019
STO อีกหนึ่งทางเลือกในการระดมทุนด้วยเทคโนโลยี Blockchain

ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลคำศัพท์ที่กำลังมาแรงแทนที่ ICO ก็คือSTO (Securities Token Offering)ว่าแต่มันคืออะไร จะเกี่ยวข้องกับตลาดตราสารหนี้หรือไม่ วันนี้เลยจะมาเล่าให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ

หลักการของ STO (Securities Token Offering)คือ เป็นการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลตามปกติ เพียงแต่ทำออกมาในรูปแบบดิจิทัลโดยอาศัยเทคโนโลยีBlockchainซึ่งนักลงทุนจะได้รับโทเคน (Token) แทนหลักฐานแสดงสิทธิในทรัพย์สินอย่างที่เคยได้รับในอดีตอย่างเช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หรือหุ้นสามัญส่วนผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับก็จะเหมือนกับการลงทุนในหลักทรัพย์นั้นจริงๆ คือ กำไรจากการขึ้นลงของราคาToken รวมถึงเงินปันผลหรือดอกเบี้ย

ข้อดีของการออกหลักทรัพย์แบบ STO ก็คือ ลดต้นทุนในการระดมทุนของภาคธุรกิจเพราะสามารถทำผ่านทาง online โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้แก่สถาบันการเงินตัวกลาง การใช้เทคโนโลยี Blockchainทำให้ขั้นตอนการโอนและส่งมอบทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสการลงทุนและทำให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยการลดขนาดของหน่วยการลงทุนขั้นต่ำลงและหากเป็น STO ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางการ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุน

ปัจจุบันในต่างประเทศมีบริษัทเอกชนรายแรกที่ออกตราสารหนี้ในรูปแบบSTO แล้วคือบริษัท Bitbond Finance GmbH ในเยอรมัน ซึ่งเสนอขาย Bitbond Token (BB1) อายุ 10 ปีมูลค่า 100 ล้านยูโรอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4ต่อปี เป็นการเสนอขายแบบ Public offering โดยให้นักลงทุนเข้าไปสร้างบัญชีผู้ใช้งานได้ที่ Website ของบริษัทหลังจากนั้นระบบจะสร้าง E-wallet ซึ่งเป็น Platform บนระบบ Blockchainเพื่อให้นักลงทุนทำการซื้อขาย รับดอกเบี้ยและเงินต้น ทั้งนี้ บริษัท BitbondFinanceเป็นสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของFederal Financial Supervisory Authority (BaFin)จากข้อมูลล่าสุดของบริษัทระบุว่าBitbondสามารถระดมทุนได้แล้ว 1.8 ล้านยูโร ณ วันที่ 18 เมษายน 2562

สำหรับประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ผลักดันให้มีการออก พรก. สินทรัพย์ดิจิทัลและ แก้ไขพรบ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก สนช. ไปแล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว จะทำให้มีการออกหลักทรัพย์แบบไร้ใบ(scripless) ได้ตั้งแต่ในตลาดแรกผ่านศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และจะสามารถทำให้เกิดกระบวนการ STO หรือการ Tokenize หลักทรัพย์โดยใช้เทคโนโลยี Blockchainในตลาดทุนไทยได้ ทั้งนี้ภายหลังการประกาศใช้กฎหมาย ก.ล.ต. จะออกเกณฑ์ในรายละเอียดเพื่อรองรับในทางปฏิบัติต่อไป

ความคืบหน้าเรื่องนี้นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยที่จะติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีในโลกการเงินยุคดิจิทัลเพื่อนำมาปรับใช้ต่อไป

All Blogs