• Posted by:

    ThaiBMA
  • Posted on:

    Oct 01, 2018
ซื้อหุ้นกู้แบบมี Call option นักลงทุนจะได้หรือจะเสียอะไร

ในช่วงที่ผ่านมา มีการออกหุ้นกู้หลายรุ่นที่มี Call option คือให้สิทธิผู้ออกสามารถเรียกไถ่ถอนหุ้นกู้คืนได้ก่อนครบกำหนด หุ้นกู้ประเภทนี้เรียกว่า Callable bond ซึ่งผู้ออกมักเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าหุ้นกู้ปกติ แต่ท่านนักลงทุนสงสัยหรือไม่คะว่าถ้าอย่างนั้นแล้ว หุ้นกู้แบบนี้มีความเสี่ยงหรือไม่อย่างไร ถ้าโดน Call หรือไถ่ถอนก่อนกำหนด นักลงทุนจะได้หรือเสียอะไร

หุ้นกู้ที่ผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หรือ Callable bond เป็นประโยชน์ต่อผู้ออกหรือผู้ต้องการระดมทุน เพราะสามารถใช้สิทธิ Call หรือ เรียกไถ่ถอนหุ้นกู้ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลงเพื่อออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำลง แต่สำหรับนักลงทุนที่วาดหวังจะได้ดอกเบี้ยในอัตราสูงไปนานๆ แต่เมื่อโดน Call และนำเงินที่ได้รับจากการไถ่ถอนก่อนกำหนดไปซื้อหุ้นกู้รุ่นใหม่ในขณะนั้นก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่ถูกเรียกไถ่ถอน จึงเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งของการลงทุนใน Callable bond เราเรียกความเสี่ยงประเภทนี้ว่า Reinvestment risk

Callable bond ในบ้านเราส่วนใหญ่จะกำหนดราคาไถ่ถอนก่อนกำหนดไว้เท่ากับราคาพาร์ โดยบางรุ่นอาจกำหนดให้ผู้ออกต้องชำระค่าธรรมเนียมการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดแก่ผู้ถือด้วย เช่น 0.2% ของเงินต้นในส่วนที่ไถ่ถอน เพื่อเป็นการชดเชยการเสียโอกาสของนักลงทุนที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่คาดหวังอีกต่อไป

หุ้นกู้ที่มีอายุยาวๆ เช่น ตั้งแต่ 10 ปี มักจะกำหนดให้ผู้ออกเริ่มใช้สิทธิ Call ได้ในปีที่ 5 นับจากวันออก แต่บางรุ่นก็อาจกำหนดไว้ตั้งแต่ปีที่ 1 หรือนานถึงปีที่ 7 จึงจะเริ่มใช้สิทธิได้ก็มี โดยผู้ออกมักใช้สิทธิ Call หรือ เรียกไถ่ถอนก่อนกำหนดในช่วงที่ดอกเบี้ยลดลง เพื่อออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง และผู้ออกต้องมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะเรียกไถ่ถอนด้วย

ดังนั้น ก่อนการลงทุนใน Callable bond นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ 1) แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย ณ วันลงทุน กับ วันที่ผู้ออกสามารถใช้สิทธิ Call ได้ในอนาคต หากมีแนวโน้มว่าดอกเบี้ยน่าจะยังคงที่หรือเพิ่มขึ้นก็ไม่ต้องกังวลมากนักว่าหุ้นกู้นั้นจะโดน Call และ 2) อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้เหล่านี้ที่ควรจะต้องสูงกว่าหุ้นกู้ปกติ รวมถึงค่าธรรมเนียมการขอไถ่ถอนก่อนกำหนด (ถ้ามี) เพียงพอแล้วหรือยังที่จะชดเชยความเสี่ยง Reinvestment risk และอย่าลืมว่าทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาร่วมกับความน่าเชื่อถือของผู้ออกด้วย เพราะความเสี่ยงด้านเครดิตก็ยังถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการลงทุนในตราสารหนี้

ตัวอย่างของ Callable bond ที่ออกในปี 2017

All Blogs